ภายหลังการบวชมาได้ระยะหนึ่ง ผู้เขียนก็มาพิจารณาทบทวนถึงประโยชน์จากการบวชว่า ขณะที่อยู่ในเพศผู้ประพฤติพรหมจรรย์ หลังบวชแตกต่างจากก่อนบวชอย่างไรบ้าง ทางด้านจิตวิญญาณมีการพัฒนาขึ้นมากน้อยเพียงใด ก่อนบวชมีความสนใจประพฤติปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาอยู่เนืองๆ ปัจจุบันขณะที่ถือเพศนักบวชอยู่ยังปรารภความเพียรใส่ใจในงานปฏิบัติมีความตั้งมั่นอย่างไม่ย่นย่อท้อถอยหรือไม่ ก็ถ้าหากยังมีความเพียรปฏิบัติอยู่เป็นปกติอย่างต่อเนื่องแล้วไซร้ แล้วมีอะไรอีกบ้างที่ยังไม่ได้เอาธุระประโยชน์จากการบวชให้พัฒนาควรแก่ฐานะรูปของนักบวชนี้
ในระหว่างพิจารณาใคร่ครวญนั้นก็ได้ระลึกถึงครูอุปัชฌาย์อาจารย์ คุณแม่ชีย่าทวดละม้าย สร้อยพลอย วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
ที่เคยได้ให้โอวาทตอนหนึ่งว่า "บวชแล้วก็ให้เรียนด้วยนะ นักธรรมตรี โท เอก ฉันเรียนพระไตรปิฎก
ทั้งพระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม ไกลแค่ไหนก็วิริยะไปเรียน เราเป็นนักบวช
นอกจากงานเจริญภาวนาที่ต้องใส่ใจแล้ว
ต้องมีความรู้ด้านปริยัติธรรมไม่ให้น้อยกว่าฆราวาสจะได้ไม่เสียทีที่ได้บวช นี่สำคัญนะ
ขอฝากไว้ "
เมื่อทวนโอวาทครูอาจารย์ที่เมตตาบวชให้ น้อมระลึกได้เช่นนั้นผู้เขียนก็เริ่มหาข้อมูลว่ามีวัด หรือสำนักไหนบ้างที่เปิดสอนปริยัติ แต่ด้วยไม่อาจทิ้งงานปฏิบัติที่มีความสนใจพากเพียรมาก่อนได้ และในตอนนั้นมีความรู้สึกว่าอาจจะพบ สำนักปริยัติบางแห่งที่มีช่วงเวลาให้ได้เจริญภาวนาไปพร้อมกับการศึกษาภาคปริยัติ จึงเสาะหาข้อมูลในที่ต่างๆ จนกระทั่งมาพบวาทะธรรมที่ทำให้เกิดกุศลจิตศรัทธาสนใจ ดังมีใจความว่า
ธุระในพระพุทธศาสนามีอยู่ 2 ประการ คือคันถธุระ หรือการศึกษาเล่าเรียน และวิปัสสนาธุระหรือการฝึกขัดเกลากิเลส หากกิจทั้งสองอย่างนี้ยังบริบูรณ์และแพร่หลาย นั่นก็หมายความว่าพระพุทธศาสนายังดำรงอยู่หรือเจริญมากขึ้น
นี่คือเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง “มูลนิธิแนบ มหานีรานนท์”
ใช่แล้ว
สำนักที่เห็นความสำคัญทั้งด้านปริยัติควบคู่กับปฏิบัติแบบนี้แหล่ะที่ผู้เขียนกำลังเพียรพยามเสาะหาอยู่ ซึ่งในรายละเอียดนั้นบอกให้ทราบว่ามีคอร์สอบรมระยะสั้นด้วย
เพื่อทำความรู้จักให้เข้าใจในสำนักที่สนใจจะไปศึกษาเล่าเรียน ผู้เขียนจึงได้สมัครเข้าคอร์สปฏิบัติตามระเบียบ ครั้งนั้นมีความปราถนาดีชวนสหมิกธรรมได้แก่
อุบาสิกาศิริขวัญ ดวงงาม และคุณโยมผู้ปกครองผู้รับรองการบวชคือ พ.ต.อ.อิทธิรัฐ
ศักดิ์เพชร และ คุณโยมอุปัฏฐาก คือคุณโยมขวัญจิตร ศิริพงษ์กุลพจน์
มาเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติไปพร้อมกันจะได้ช่วยกันพิจารณา เมื่อถึงกำหนดวันเวลา ก็ได้พร้อมใจกันเดินทางมาอบรมเข้ากรรมฐาน ในวันที่ 25-27 มกราคม ปีพุทธศักราช 2562 ตามจิตเจตนาที่ได้ตั้งไว้
การอบรมรมครั้งนั้นสหมิกธรรมและญาติโยมที่มาเข้าคอร์สปฏิบัติวิปัสสนานี้
ผู้ที่มีพื้นฐานมาก่อนแล้ว
ก็ได้รับประโยชน์สมควรแก่ธรรมมีความรู้ความเข้าใจทั้งในคันถธุระ และ วิปัสสนาธุระ
นำประโยชน์มาใช้ในการเดินวิปัสสนาได้เข้มแข็งมากขึ้น
ส่วนผู้ที่มาใหม่ก็ได้หลักปฏิบัติที่ถูกต้องตรงตามพระสัทธรรม
หลังจบคอร์ส สหมิกธรรมและญาติโยมที่มาร่วมอบรมลงความเห็นว่า
สำนักศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกพระอภิธรรม หลักสูตรประจำ 2 ปี สำหรับพระภิกษุ
สามเณร และแม่ชี ที่ สำนักวิปัสสนาแนบ มหานีรานนท์ นี้มีความสัปปายะยิ่งสมควรแก่งาน
![]() |
พระภิกษุนักศึกษา , แม่ชีนักศึกษารุ่นพี่ |
เมื่อทุกคนมีความเห็นพ้องตรงกัน ผู้เขียนจึงตัดสินใจสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษา ในสำนักศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกพระอภิธรรม สำนักวิปัสสนาแนบ มหานีรานนท์
หลังจบอบรมวิปัสสนานั้นทันที ด้วยตั้งจิตเจตนานั้นไว้ดังกล่าว
จึงได้กลับไปจัดการธุระทางโลกให้ลุล่วงเรียบร้อย เมื่อจบภาระกิจก็สมัครเข้าอบรมวิปัสสนา หลักสูตร 7 วันอีกครั้ง คือวันที่ 8-14
กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2562 และเมื่อจบคอร์สอบรมวิปัสสนาครั้งนี้ก็สมัครเข้ากรรมฐานปลีกวิเวกต่อในสำนักวิปัสสนาแนบตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
![]() |
พระภิกษุนักศึกษา , แม่ชีนักศึกษารุ่นพี่ |
ตารางกิจกรรมปีพุทธศักราช 2562 |
พุทธบริษัท4 พระภิกษุนักศึกษา , แม่ชีนักศึกษา , อุบาสก-อุบาสิกานักศึกษา |
#อนัตตา #พระสัทธรรม
#พระอภิธรรม #พระปริยัติธรรม #คุณแม่ชีย่าทวดละม้าย
สร้อยพลอย
บันทึกวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2562
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น